ตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง หรือ สกินแคร์ในปัจจุบันนั้น ถือว่าเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูงเพราะผู้คนให้ความสำคัญกับเรื่องของความสวยความงามเป็นอย่างมาก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเต็มไปด้วยการแข่งขันสูงด้วยเช่นกัน ดังนั้น ในการเลือกสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง จึงจำเป็นต้องเลือกอย่างเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ใดจะสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้มากที่สุด
หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินคำว่า “เวชสำอาง” กันอยู่บ้าง และสำรวจเห็นว่าเวชสำอางมักมีราคาที่สูงกว่าเครื่องสำอางหรือสกินแคร์ทั่วไป จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นี้ต่างกันอย่างไร และถ้าเราคิดจะทำแบรนด์สินค้าเครื่องสำอางจำหน่าย ไปว่าจ้างโรงงาน OEM ผลิตครีมนั้น ควรจะเลือกผลิตเวชสำอาง หรือว่าสกินแคร์ดี ในบทความนี้เราจึงจะพาว่าที่เจ้าของแบรนด์ทุกคนไปทำความเข้าใจให้ชัดแจ้ง เพื่อที่จะตัดสินใจเลือกได้ว่าจะผลิตเวชสำอางหรือว่าสกินแคร์ดี
สกินแคร์ คืออะไร?
สกินแคร์ (Skincare) คือ เครื่องสำอาง ตามคำจำกัดความในพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง ปี 2535 ซึ่งกำหนดไว้ว่า หมายถึง วัตถุที่ใช้ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ หรือกระทำด้วยวิธีอื่นใด ต่อส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย เพื่อความสะอาด ความสวยงาม หรือส่งเสริมให้เกิดความสวยงาม รวมทั้งเครื่องประทิ่นผิวต่าง ๆ ด้วย แต่ไม่นับรวมเครื่องประดับและเครื่องแต่งกายภายนอก ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ถือว่าเป็นเครื่องสำอาง เช่น ครีมทาหน้า โลชั่นทาผิว สบู่ แชมพู ครีมนวดผม ลิปสติก อายไลน์เนอร์ อายแชโดว์ สีทาเล็บ แป้งฝุ่น เป็นต้น แต่สำหรับสกินแคร์นั้น จะเจาะจงลงไปมากกว่าอีกขั้นหนึ่งว่าเป็นเครื่องสำอางที่ใช้สำหรับผิวโดยเฉพาะ จึงเรียกว่า Skincare ที่หมายถึงการดูแลผิวนั่นเอง
เวชสำอาง คืออะไร?
เวชสำอาง จริง ๆ แล้วก็จัดได้ว่าเป็นเครื่องสำอางชนิดหนึ่งเช่นกัน แต่มีความพิเศษมากกว่าสกินแคร์หรือเครื่องสำอางทั่วไปตรงที่ “มีส่วนผสมพิเศษที่ให้ประสิทธิภาพคล้ายยาแต่ไม่ใช่ยา” โดยให้ผลลัพธ์ต่อโครงสร้างของผิว ซึบซับเข้าไปก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชั้นโครงสร้างผิวได้ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วสารสกัดในเวชสำอางจะเป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่ไม่ได้เป็นยาโดยตรง
ทั้งนี้ เวชสำอางไม่ใช่ยาที่รักษาโรคผิวหนังได้ เพียงแต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนในการช่วยบำรุงทำให้ผิวมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ โดยในทางกฎหมายก็ไม่ได้มีการกำหนดความหมายของคำว่า “เวชสำอาง” เอาไว้โดยตรง กล่าวคือ เป็นคำที่แปลมาจากต่างประเทศจากคำว่า “cosmeceutical products” โดยคำว่า cosmeceutical มาจากคำว่า Cosmetic หรือ เครื่องสำอาง + Pharmaceuticals ที่แปลว่า ยา หรือ เกี่ยวกับยา จึงเป็นที่มาของภาษาไทยว่า “เวชสำอาง” หมาย เครื่องสำอางที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยา หรือมีฤทธิ์คล้ายยานั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ด้วยเพราะเวชสำอางไม่ได้เป็นคำทางกฎหมาย ในการประชาสัมพันธ์โฆษณาจึงอยู่ภายใต้ขอบเขตของ “เครื่องสำอาง” ไม่สามารถโฆษณาอวดอ้างเกินจริงได้ว่า ใช้รักษาโรคผิวหนัง หรือทำให้ผิวขาวใด ๆ ได้ เราจึงมักเห็นการใช้คำเลี่ยงไปเป็นในทำนองช่วยให้ผิวกระจ่างใสกันมากกว่า แต่ในความรับรู้ของผู้บริโภค เวชสำอาง ถือเป็นคำที่บ่งบอกถึงความทรงพลัง ทรงประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องสำอางทั่วไป
อยากจ้างโรงงาน OEM ผลิตครีม ควรผลิตเวชสำอางหรือเครื่องสำอางดีกว่ากัน?
ในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นเวชสำอาง หรือ เครื่องสำอาง สกินแคร์ปกติ ก็สามารถทำการตลาดสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จได้ทั้งนั้น แต่ในแง่ของการส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของผู้บริโภค เวชสำอางจะมีผลทางใจต่อผู้ที่มีปัญหาผิวมากกว่า ดึงดูดความสนใจได้มากกว่า แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการวิจัยและผลิตสินค้าอย่างทุ่มเท ให้ตัวผลิตภัณฑ์สามารถตอบโจทย์และให้ผลลัพธ์ได้จริง
หากกล่าวไปแล้ว เวชสำอางจะไม่ใช่ผลิตภัณฑ์แค่เพื่อความสวยงาม แต่จะเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิว ถึงแม้ตัวผลิตภัณฑ์จะไม่ใช่ยาก็ตาม ซึ่งพอถูกวางคุณค่าให้เป็นเรื่องเดียวกับการดูแลสุขภาพ จึงต้องควบคุมการผลิตให้อยู่ในมาตรฐานความปลอดภัย จึงจะสร้างความน่าเชื่อถือได้มากกว่า ซึ่งแน่นอนว่าย่อมใช้งบประมาณในการลงทุนที่สูงกว่าการผลิตสกินแคร์เครื่องสำอางทั่วไป แต่ราคาขายและกำไร ก็จะได้สูงกว่าเช่นกัน หากทำแบรนด์ได้ประสบความสำเร็จ
ในการเลือกเฟ้นหาโรงงาน OEM สำหรับผลิตครีมนั้น ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นเครื่องสำอาง หรือ เวชสำอาง ก็ล้วนแต่ต้องเลือกอย่างพิถีพิถันให้ได้โรงงานที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และมีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในการผลิตสินค้าดังกล่าวโดยตรง เพราะการผลิตสินค้าเครื่องสำอางที่ไม่มีคุณภาพออกมานั้น จะทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถที่จะประสบความสำเร็จกับการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางจำหน่ายได้เลย
เพราะต่อให้เราจะมีกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดีแค่ไหน แต่เมื่อผู้บริโภคซื้อไปทดลองใช้แล้วไม่ได้ผล ก็จะไม่สามารถเติบโตได้ ซ้ำร้ายกว่านั้นคือหากเครื่องสำอางของเราไม่มีคุณภาพ ส่งผลเสียต่อผู้บริโภค ก็อาจนำมาซึ่งการถูกฟ้องร้องที่ทำให้เกิดความเสียหายหนักกว่าที่คาดคิดได้ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกโรงงานผลิตครีม OEM ใดก็แล้วแต่ จึงต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือและคุณภาพอย่างเคร่งครัด และควรเปรียบเทียบหลาย ๆ โรงงานผลิตก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้โรงงาน OEM ที่ดีที่สุดสำหรับเป็นผู้สนับสนุนความฝันในการสร้างแบรนด์ปั้นธุรกิจเครื่องสำอางของเรา